การสกรีนเสื้อนั้นมีอยู่หลากหลายวิธี ในอดีตการสกรีนเสื้อจะใช้การสร้างบล็อกแยกตามสี ปาดสีก่อนแล้วค่อยนำไปเป่าให้แห้ง จากนั้นจะลงทีละสีเพื่อให้เกิดมิติของภาพ เรียกได้ว่าใช้หลายกระบวนการมาก ๆ กว่าจะได้เสื้อยืดพิมพ์ลาย 1 ตัว จึงทำให้ร้านค้ามีการกำหนดขั้นต่ำในการผลิตเสื้อยืดพิมพ์ลาย เพื่อให้คุ้มทุนสำหรับการบล็อกสีในแต่ละครั้ง

‍

แต่ในปัจจุบันมีเทคโนโลยีสกรีนเสื้อด้วยระบบคอมพิวเตอร์ที่ทันสมัย ผลิตเสื้อยืดพิมพ์ลายแค่ 1 ตัวก็ทำได้ ไม่จำเป็นต้องทำบล็อกสีให้เปลืองแรง ประหยัดเวลาไปได้มาก โดยจะมีอยู่ 2 แบบหลัก ๆ ด้วยกัน ได้แก่ Digital film Transfer (DFT) กับ Direct to Garment (DTG) ซึ่งทั้งสองแบบนี้ต่างกันอย่างไร เลือกใช้งานแบบไหนถึงจะตอบโจทย์ วันนี้เรามีคำตอบ !

‍

Digital film Transfer (DFT)

‍

‍

DFT คือ การพิมพ์หมึกสำหรับการย้อมผ้า ได้แก่ น้ำเงิน แดง เหลือง ดำ (CMYK) และ ขาว (W) ลงบนแผ่นฟิล์มเปล่า ๆ และเมื่อพิมพ์หมึกลงบนแผ่นฟิล์มเรียบร้อยแล้ว ก็จะทำการโรยผงกาวที่มีหน้าที่เป็นตัวยึดติดกับผ้า จากนั้นจะนำแผ่นฟิล์มที่พิมพ์หมึกแล้วมารีดร้อนติดบนเสื้อ โดยจะใช้ความร้อนประมาณ 170-180 องศาเซลเซียส และใช้เวลาประมาณ 10-15 วินาที จากนั้นก็จะสามารถลอกฟิล์มออกได้ โดยหมึกที่เราพิมพ์ลงบนฟิล์มที่มีผงกาวโรยอยู่นั้นจะเกิดการหลอมละลายและยึดติดลงไปบนเนื้อผ้า เป็นอันว่าเสร็จสมบูรณ์ค่ะ 

นอกจากนี้วิธีแบบ DFT ยังสามารถผลิตได้กับผ้าหลากหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นผ้าคอตตอน, ผ้าฝ้าย, ผ้า TK, ผ้า TC, ผ้าไมโคร, ผ้าโพลีเอสเตอร์, ผ้าร่ม, และผ้าดิบ เป็นต้น

ข้อดีของ DFT

• ต้นทุนราคาถูกมาก
• สั่งสกรีนจำนวนน้อยก็ผลิตได้
• สกรีนตัวหนังสือเล็ก ๆ ได้ดี
• ผสมสีได้อย่างอิสระ ไม่ต้องทำบล็อกสี
• สีค่อนข้างตรง ไม่มีสีของเนื้อวัสดุมาผสม
• ยืดหยุ่นและเคลื่อนไหวได้ตามเนื้อผ้า ไม่แข็งกระด้าง
  
  
  

ข้อเสียของ DFT

• เครื่องหัวพิมพ์ตันง่าย
• ใช้ไฟฟ้าในการผลิตจำนวนมาก
• ต้องควบคุมและดูแลการผลิตอยู่ตลอด
• ต้องใช้ความชำนาญในการทำไฟล์ก่อนผลิต
• ส่วนที่สกรีนลงไปบนเสื้อจะทึบ ไม่สามารถระบายอากาศออกได้

Direct to Garment (DTG)

‍

‍

DTG คือ การใช้หมึกพิกเมนต์ (Pigment) สกรีนลงบนเสื้อโดยตรงและอบด้วยความร้อนสูง เพื่อให้หมึกแห้งและติดทนบนเนื้อผ้า ซึ่งสีของเสื้อที่เหมาะกับการสกรีนแบบ DTG คือ สีขาวและสีอ่อน เปรียบเสมือนตอนเราใช้เครื่อง Printer สำหรับการพิมพ์หมึกลงบนกระดาษสีขาว ภาพที่พิมพ์ออกมาจะสวยงามและคมชัด แต่ถ้าหากเรานำไปสกรีนลงบนเสื้อผ้าสีดำหรือสีเข้ม ภาพที่พิมพ์ออกมาก็อาจดูเพี้ยนไปบ้าง โดยการสกรีนแบบ DTG จะมีประสิทธิภาพดีที่สุดก็ต่อเมื่อพิมพ์ลงบนผ้าคอตตอน (Cotton) 100% เท่านั้น

การสกรีนแบบระบบดิจิตอล DTG จะสามารถผสมสีได้เกิน 10,000 สีต่อครั้ง ซึ่งเหมาะกับงานกสรีนเสื้อยือพิมพ์ลายที่ต้องใช้สีเยอะ ๆ งานกราฟิกคุณภาพสูง เช่น เสื้อยืดลายกราฟิก เสื้อลายภาพเหมือน เป็นต้น โดยจะใช้เวลาเพียง 3-5 นาทีต่อการสกรีน 1 ตัว เรียกได้ว่างานเสร็จไว ลูกค้าไม่ต้องรอนานแน่นอน แต่ในการสกรีนแบบ DTG ไม่ว่าคุณจะสั่งผลิตน้อยหรือเยอะ ต้นทุนการพิมพ์ก็จะเท่ากันอยู่ดีค่ะ

‍

ข้อดีของ DTG

• สกรีนคมชัด ภาพสวย เหมือนต้นฉบับที่สุด
• งานพิมพ์มีความละเอียดสูงมาก 
• สั่งสกรีนจำนวนน้อยก็ผลิตได้
• สั่งสีเดียวหรือหลายสีก็ราคาเท่ากัน
• ผสมสีได้อย่างอิสระ ไม่ต้องทำบล็อกสี
• หมึกซึมลงเข้าเส้นใยผ้า

ข้อเสียของ DTG

• เครื่องพิมพ์และค่าซ่อมบำรุงเครื่องพิมพ์มีราคาสูง
• ต้นทุนราคาแพงกว่า DFT จึงไม่เหมาะแก่การสั่งเยอะ ๆ
• สกรีนได้ดีเฉพาะบนผ้าคอตตอนเท่านั้น ไม่เหมาะกับการสกรีนลงเนื้อผ้าชนิดอื่น ๆ

‍

สรุปได้ว่า ในปัจจุบันเทคโนโลยีได้ถูกพัฒนาให้มีความสะดวกต่อการพิมพ์ลายสกรีนเสื้ออย่างมาก  หากใครต้องการสกรีนเสื้อผ้าต้นทุนถูก ไม่จำกัดสี ใช้เนื้อผ้าได้อย่างหลากหลาย ผลิตทีละจำนวนเยอะ ๆ ก็จะเหมาะกับวิธีกสรีนแบบ DFT แต่ถ้าหากใครต้องการสกรีนเสื้อผ้าที่มีความคมชัดสูง ภาพสวย ไม่จำกัดสี เสื้อลายกราฟิก เสื้อลายภาพเหมือน ก็ต้องใช้วิธีสกรีนแบบ DTG เพียงเท่านี้ก็รู้แล้วว่าคุณต้องการใช้วิธีผลิตแบบไหนถึงจะตอบโจทย์ที่สุด !

‍

ใครพร้อมแล้วที่จะทำแบรนด์เสื้อผ้า Thumbinthai ขอเป็นส่วนหนึ่งในความสำเร็จของคุณ!

Thumbinthai โรงงานผลิตเสื้อผ้าแบบครบวงจร (One-Stop Service) มีบริการให้เลือกอย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการขึ้นแพทเทิร์น สกรีนลายเสื้อ เลือกชนิดผ้าและอื่น ๆ เราคือผู้ความเชี่ยวชาญด้านการผลิตและจัดส่งเสื้อยืดคุณภาพสูง มีการใช้เทคนิคผลิตเสื้อผ้าที่ทันสมัย รวมถึงควบคุมคุณภาพอย่างเข้มงวดตลอดกระบวนการผลิต เพื่อให้เสื้อผ้าแบรนด์ของคุณออกมาคุณภาพดีอย่างไร้ทิติ หากสนใจคุยกับเรา คลิกที่นี่

‍